มูลนิธิโทเร เพื่อการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ ประเทศไทย (TTSF) ขอเชิญผู้สนใจสมัครเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้สมควรรับเงินทุนช่วยเหลือทางด้านวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครั้งที่ 32 พ.ศ. 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้

ขอบเขตการสนับสนุน

เงินทุนที่ให้จะให้การสนับสนุนเรื่องค่าตอบแทนแก่ผู้ทำการวิจัยและผู้ช่วยวิจัยในโครงการเป็นหลัก และส่วนหนึ่งจะให้การสนับสนุนการเดินทางไปเสนอผลงานวิจัยในต่างประเทศรวมทั้งการเผยแพร่ผลงาน บางส่วนอาจให้เป็นค่าใช้จ่าย เช่น ค่าวัสดุในการดำเนินการวิจัย ทั้งนี้โครงการที่เสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ ควรเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนวิจัยจากแหล่งทุนอื่นอยู่แล้ว โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ ถือเป็นการสนับสนุนโครงการวิจัยนั้นๆ เพิ่มเติมในบางส่วนเท่านั้น

ผู้มีสิทธิสมัคร

อาจารย์หรือนักวิจัยในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน หรือนักวิจัยในสถาบันวิจัยของรัฐและรัฐวิสาหกิจในประเทศไทยที่ต้องการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในสาขาที่กล่าวข้างต้น โดยบุคคลที่สมัครต้องมีสัญชาติไทยและปฏิบัติงานวิจัยในประเทศไทย

เกณฑ์การพิจารณา

1. งานวิจัยจะต้องเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อส่วนรวมในสาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี และวิศวกรรมศาสตร์ และเป็นงานวิจัยที่มีศักยภาพสูงในการตอบความท้าทายของโลกปัจจุบันและในอนาคต (ดูตัวอย่างโครงการที่เคยได้รับทุนในปีก่อนๆ ได้ที่ ttsf.or.th) (ในปีนี้มูลนิธิฯ จะให้ความสำคัญส่วนหนึ่งกับงานวิจัยที่ใช้วัตถุดิบจากภาคเกษตร โดยเฉพาะยางพารา และปาล์มน้ำมัน ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ/หรือ กระบวนการ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green))
2. วิธีการและแผนงานวิจัยถูกต้องและเหมาะสมตามแบบแผนเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้นๆ
3. ผู้วิจัยจะต้องเป็นผู้มีประวัติความสำเร็จในผลงานเป็นที่ยอมรับของบุคคลในวงการนั้นๆ เป็นอย่างดี และ/หรือมีศักยภาพที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถในสาขาของงานให้เป็นที่ยอมรับในวงการต่อไป อีกทั้งมีศักยภาพที่จะผลิตนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพในสาขานั้นๆ ได้
4. ข้อเสนอโครงการต้องระบุชัดเจนถึงประเด็นปัญหาหรือที่มาที่นำมาสู่การวิจัยในเรื่อง/หัวข้อที่เสนอ โดยมีการอ้างอิงถึงงานวิจัยที่ได้มีการทำมาแล้วหรือที่มีผู้อื่นกำลังทำอยู่ในเรื่องนั้นๆ ด้วย รวมทั้งระบุชัดเจนถึงสิ่งที่จะได้รับจากงานวิจัยนี้ว่าจะมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวหรือมีส่วนที่ทำให้เข้าใจถึงสิ่งที่เป็นปัญหาหรือเป็นที่สงสัยนั้นได้ถ่องแท้ขึ้นอย่างไร ชื่อโครงการควรกะทัดรัดและสื่อถึงเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญของงานวิจัยที่ทำ
5. โครงการที่เสนอขอรับทุนช่วยเหลือการวิจัยจากมูลนิธิฯ ควรได้รับการสนับสนุนเงินทุนวิจัยหลักจากแหล่งทุนอื่นอยู่แล้ว
6. สถาบันต้นสังกัดของผู้ที่ได้รับเงินทุนช่วยเหลือการวิจัยจากมูลนิธิฯ มีการกระจายตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์อย่างเหมาะสม

จำนวนเงินอุดหนุน

ทุนนี้จะให้การสนับสนุนรายละไม่เกิน 400,000 บาท ต่อปี ทั้งนี้ขึ้นกับขอบเขตงานของโครงการโดยจะมีจำนวนทุนทั้งสิ้นประมาณ 15-20 ทุนต่อปี ในกรณีที่เป็นโครงการที่ใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ปี จะได้รับการพิจารณาปีต่อปีโดยนักวิจัยจะต้องทำข้อเสนอเพื่อขอรับทุนใหม่ทุกปี

ผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัคร จำนวน 2 ฉบับ มายังสำนักวิจัยและพัฒนา ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2568นี้ และสอบถามเพิ่มเติมที่ คุณพิณญา ยาหวัง โทร.0-7428-6968 (ภายใน 6968) Email : pinya.y@psu.ac.th

ติดตามรายละเอียดและ Download ใบสมัครที่ https://www.ttsf.or.th/awards-activity/science-and-technology-research-grant/